แชร์บทความนี้

วิธีทํามะม่วงกวนไม่ตากแดด

วิธีทำมะม่วงกวนแบบไม่ง้อแดด: เนื้อหนึบ อร่อยง่าย ทำได้จริงที่บ้าน

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบมะม่วงกวนแต่ไม่มีพื้นที่ตากแดด หรือต้องการความสะดวกรวดเร็ว ปัจจุบันมีหลากหลายวิธีในการทำมะม่วงกวนโดยไม่ต้องพึ่งพาแสงแดด ซึ่งแต่ละวิธีก็ให้ผลลัพธ์ที่อร่อยน่าพึงพอใจ บทความนี้ได้รวบรวมเทคนิคและสูตรการทำมะม่วงกวนแบบไม่ตากแดดมาให้คุณเลือกทำตามได้ง่ายๆ

วัตถุดิบหลัก (ปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบและปริมาณมะม่วง):

  • มะม่วงสุก: เลือกพันธุ์ตามชอบ เช่น มะม่วงแก้ว มะม่วงน้ำดอกไม้ หรือมะม่วงโชคอนันต์ โดยความหวานและความเปรี้ยวของมะม่วงแต่ละพันธุ์จะส่งผลต่อรสชาติของมะม่วงกวน
  • เกลือป่น: เล็กน้อย เพื่อตัดรสชาติและช่วยถนอมอาหาร
  • น้ำตาลทราย (ถ้าต้องการเพิ่มความหวาน): ปริมาณตามความชอบ หรือขึ้นอยู่กับความหวานของมะม่วง
  • น้ำมะนาว (ถ้าต้องการเพิ่มความเปรี้ยวหรือช่วยให้สีสวย): เล็กน้อย
  • แป้งมันสำปะหลัง (บางสูตร): ช่วยให้เนื้อมะม่วงกวนหนึบขึ้นและแผ่นสวย (ประมาณ 45 กรัม ต่อน้ำเปล่า 150 มิลลิลิตร สำหรับมะม่วง 1 กิโลกรัม)
  • กะทิ (บางสูตร): เพิ่มความหอมมัน
  • งาขาวคั่ว (บางสูตร): เพิ่มความหอมและเนื้อสัมผัส

ขั้นตอนการเตรียมมะม่วง (เหมือนกันทุกวิธี):

  1. ล้างมะม่วง: ล้างมะม่วงให้สะอาด ปอกเปลือก และฝานเอาแต่เนื้อ ระวังอย่าให้ติดเม็ด
  2. ปั่นเนื้อหมากม่วง: นำเนื้อมะม่วงที่ได้ไปปั่นให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน หากไม่มีเครื่องปั่น สามารถใช้วิธีขยำด้วยมือจนเนื้อละเอียดได้เช่นกัน หากต้องการเพิ่มแป้งมัน ให้ผสมแป้งมันกับน้ำเปล่าแล้วใส่ลงไปปั่นพร้อมกับเนื้อมะม่วง

วิธีทำมะม่วงกวนโดยไม่ตากแดด:

มีหลายวิธีที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวกและอุปกรณ์ที่มี ดังนี้:

1. การกวนในกระทะ (วิธีพื้นฐาน):

  • ตั้งไฟกวน: เทเนื้อมะม่วงที่ปั่นละเอียดแล้วลงในกระทะ (ควรใช้กระทะทองเหลืองหรือกระทะเทฟลอนเพื่อไม่ให้ติด) ใช้ไฟอ่อนถึงปานกลางในการกวน
  • ปรุงรส (ถ้าต้องการ): หากต้องการเพิ่มรสชาติ สามารถเติมเกลือ น้ำตาล หรือน้ำมะนาวได้ในช่วงนี้ ชิมรสตามชอบ
  • กวนต่อเนื่อง: หมั่นคนมะม่วงตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ไหม้ติดกระทะ กวนจนเนื้อมะม่วงเริ่มใสขึ้น ข้นเหนียว และมีสีเข้มขึ้น (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับปริมาณมะม่วงและความร้อน)
  • ทำให้แห้ง:
    • กวนจนแห้งพอดีทาน: สำหรับสูตรที่ไม่ต้องการเก็บไว้นาน สามารถกวนจนมะม่วงแห้งพอที่จะปั้นหรือตัดเป็นชิ้นได้โดยไม่ติดมือ ก็สามารถรับประทานได้เลย
    • พักในตู้เย็น (บางสูตร): หลังจากกวนจนข้นเหนียวแล้ว บางสูตรแนะนำให้นำไปเทใส่ภาชนะ ปิดฝา แล้วพักไว้ในตู้เย็น 1 คืน ก่อนนำมาเกลี่ยเป็นแผ่นบางๆ บนแผ่นพลาสติกหรือถาดที่รองด้วยกระดาษไข แล้วอาจจะต้องนำไปผึ่งลมหรือใช้วิธีอื่นช่วยให้แห้งสนิทอีกครั้ง

2. การใช้วิธีอบ (เตาอบ หรือ หม้ออบลมร้อน):

  • เตรียมมะม่วงกวน: หลังจากปั่นเนื้อมะม่วงและกวนในกระทะจนข้นเหนียวขึ้นระดับหนึ่ง (เนื้อมะม่วงจะใสขึ้น)
  • เทใส่ถาด: เทมะม่วงกวนลงบนถาดที่ปูกระดาษไขหรือแผ่นรองอบ เกลี่ยให้มีความหนาสม่ำเสมอกัน ไม่หนาหรือบางจนเกินไป
  • การอบ:
    • เตาอบ: อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 80-85 องศาเซลเซียส นำมะม่วงเข้าอบ โดยอาจแง้มฝาเตาอบเล็กน้อยเพื่อช่วยระบายความชื้น ระยะเวลาในการอบขึ้นอยู่กับความหนาของมะม่วงกวน โดยอาจใช้เวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมง หรือจนกว่ามะม่วงจะแห้งดี ไม่ติดมือ และมีความหนึบตามต้องการ ควรคอยสังเกตและเช็คความแห้งเป็นระยะ
    • หม้ออบลมร้อน: ใช้ไฟประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส อบเป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไป หรือจนกว่าจะแห้งตามต้องการ คอยตรวจสอบความแห้งของมะม่วงเป็นระยะ หากยังไม่แห้งพอสามารถอบต่อได้
  • พักให้เย็นและจัดเก็บ: เมื่อมะม่วงกวนแห้งได้ที่แล้ว นำออกจากเตาอบหรือหม้ออบลมร้อน พักไว้ให้เย็นสนิท จากนั้นสามารถลอกออกจากกระดาษไข ตัดเป็นชิ้น หรือม้วนเก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • การเลือกมะม่วง: มะม่วงที่มีรสเปรี้ยวอมหวานจะทำให้มะม่วงกวนมีรสชาติกลมกล่อม หากใช้มะม่วงหวานอย่างเดียวรสชาติอาจจะหวานโดดเกินไป
  • ความหนาบาง: การเกลี่ยมะม่วงกวนให้มีความหนาสม่ำเสมอจะช่วยให้แห้งพร้อมกัน หากหนาเกินไปจะแห้งยาก และถ้าบางเกินไปอาจจะกรอบและแตกง่าย
  • การเก็บรักษา: มะม่วงกวนที่แห้งสนิทดีแล้วสามารถเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดมิดชิดที่อุณหภูมิห้องได้นานหลายสัปดาห์ หรือเก็บในตู้เย็นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา

การทำมะม่วงกวนโดยไม่ตากแดดนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่เหมาะสม ก็สามารถสร้างสรรค์ขนมอร่อยๆ ไว้ทานเล่นหรือเป็นของฝากได้ง่ายๆ ที่บ้านของคุณ.


แชร์บทความนี้