แชร์บทความนี้

หนังสือ พ่อ รวย สอน ลูก

หนังสือพ่อรวยสอนลูก เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ ซึ่งผู้เขียนนั้นเป็นชาวอเมริกันญี่ปุ่น มีชื่อว่า โรเบิร์ต คิโยซากิ

ปัจจุบันหนังสือ  Rich Dad Poor Dad  ได้ถูกแปลเป็นภาษาไทยมีชื่อว่า พ่อรวยสอนลูก ซึ่งก็มียอดขายในเมืองไทยไม่แพ้ต่างประเทศเลยทีเดียว หนังสือพ่อรวยสอนลูกถูกตีพิมพ์หลายต่อหลายครั้ง เป็นหนังสือขายดีตลอดกาลของสำนักพิมพ์ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ หนังสือเล่มนี้ได้รับการแปลถึง 51 ภาษา ทำยอดขายได้มากกว่า  27 ล้านเล่มทั่วโลก

สรุปเนื้อหาของหนังสือพ่อรวยสอนลูก

ผมมีพ่อสองคน มีหนึ่งคนที่รวยและหนึ่งคนที่จน พ่อคนแรกจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง มีหัวดีมากอีกคนหนึ่งไม่ได้จบแม้กระทั่ง ม.ปลาย ทั้งคู่เป็นคนที่ตั้งใจทำงานตลอดชีวิต ทั้งคู่มีรายได้ดี แต่พ่อคนนึงลำบากเรื่องการเงินตลอดชีวิต ส่วนพ่ออีกคนนึงกลายเป็นคนที่รวยที่สุดคนหนึ่งในฮาวาย ท่านไม่ได้เหลือสมบัติให้กับครอบครัวอย่างเดียวท่านได้บริจาคให้กับโบสถ์สถานที่สาธารณะต่างๆหลายสิบล้านดอลลาร์  ส่วนอีกคนนึงเหลือแค่หนี้สินเท่านั้น

ผมเกิดที่ฮาวายเป็นคนเชื้อสายญี่ปุ่นผมได้รับความรู้จากพ่อที่รวยและจนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงตอนที่ผมยังเด็กอยู่ พ่อที่รวยในตอนนั้นยังไม่ได้รวย สำหรับพ่อที่ลำบากเกี่ยวกับการเงินตลอดชีวิตในตอนนั้นก็ไม่ได้จน ตอนที่พ่อทั้งคู่ยังหนุ่มอยู่ต่างพยายามเลี้ยงลูกและครอบครัวอย่างเต็มที่ การที่มีพ่อสองคนทำให้ผมได้เรียนรู้ความแตกต่างจากพ่อทั้งคู่ ผมจึงต้องคิดและวิเคราะห์ข้อแตกต่างของพ่อทั้งคู่พร้อมๆกันในที่สุดผมจึงรู้ว่าความคิดของคนมีอิทธิพลต่อคนรอบข้าง พ่อคนนึงบอกว่าเงินคือต้นตอของความเลวร้ายส่วนพ่ออีกคนพูดว่าการที่ไม่มีเงินนี่แหละคือต้นตอของความเลวร้าย

พ่ออีกคนหนึ่งชอบพูดติดปากว่าไม่มีเงินซื้อสิ่งนั้นหรอก ส่วนพ่ออีกคนนึงพูดว่าห้ามพูดต้องคิดว่าจะทำยังไงให้หาเงินมาซื้อสิ่งนั้นได้ เพราะทั้งคู่มีความคิดที่แตกต่างกันสิ้นเชิง พ่อจนชอบพูดว่าคนรวยควรจะจ่ายภาษีเยอะๆเพื่อช่วยคนจน ส่วนพ่อรวยบอกว่าภาษีทำร้ายคนทำงานแต่ช่วยคนไม่ทำงานอยู่สบาย

 

พ่อจนพูดว่าตั้งใจเรียนเยอะๆและลูกจะได้เข้าทำงานในบริษัทที่ดีๆ  

ส่วนพ่ออีกคนพูดว่าตั้งใจเรียนให้ดีนะแล้วลูกจะมีเงินซื้อบริษัทดีๆ

 

พ่อจนบอกว่าการที่พ่อไม่รวยก็เพราะว่ามีลูก

ส่วนพ่อรวยบอกว่าการที่พ่อรวยก็เพราะว่ามีลูก

 

พ่ออีกคนบอกว่าเวลากินข้าวห้ามคุยเรื่องเงินเด็ดขาด

ส่วนอีกคนบอกว่าพูดถึงเรื่องเงินเต็มที่เลยลูก

 

พ่อจนบอกว่าบ้านคือทรัพย์สินและควรที่จะลงทุนกับมัน

ส่วนพ่อรวยบอกว่าสำหรับคนที่คิดว่าบ้านคือทรัพย์สินนั่นแหละคือปัญหา

 

และที่แตกต่างกันสิ้นเชิงพ่อจนบอกว่ารัฐบาลและบริษัทควรจะดูแลพนักงานและประชาชนตลอดชีวิต

พ่อรวยบอกว่าเราควรจะทำเองทุกอย่างอย่างอิสระไม่พึ่งใคร และท่านก็ค้านการรับการดูแลจากผู้อื่นเพราะเป็นการติดนิสัยพึ่งพาผู้อื่นแสดงถึงความอ่อนแอของตัวเองอย่างสิ้นเชิง

สิ่งที่สำคัญสำหรับท่านคือการเพิ่มความสามารถในการหาเงิน

พ่อจนลำบากแม้กระทั่งการเก็บเงิน

พ่อรวยใช้เงินมากขึ้นเรื่อยๆในการลงทุน

 

พ่อจนสอนให้ลูกได้งานดีๆเริ่มด้วยการเขียนประวัติใบสมัครงานให้เก่ง

พ่อรวยสอนให้วางแผนการก่อตั้งบริษัทสอนให้เขียนการวางแผนการลงทุน

 

จากการที่ได้เรียนรู้จักพ่อสองคนนี้ที่มีความคิดและความเชื่อที่แตกต่างกันจึงตระหนักรู้ถึงผลของการกระทำที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เช่นพ่อจนของผมบอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นคนรวยอย่างเด็ดขาดและคำทำนายนั้นก็เป็นไปตามที่เขาพูดเป๊ะเลย ส่วนพ่อที่รวยก็จะบอกตัวเองอยู่เสมอว่าฉันคือคนรวยเช่นฉันเป็นคนรวย คนรวยจะไม่ทำแบบนี้ ปัญหาเกี่ยวกับการเงินนั้นมันเป็นแค่เรื่องชั่วคราว ส่วนความจน จะจนตลอดชีวิต พ่อจนบอกผมว่าพ่อไม่สนใจเรื่องเงินหรอกเพราะเงินไม่ใช่ปัญหา ส่วนพ่อที่รวยก็จะพูดอยู่เสมอว่าเงินคือพลัง ในตอนนั้นผมยังเด็กอยู่ไม่สามารถประเมินหรือวัดความคิดของคนได้แต่ผมก็ตะหนักรู้ว่าความคิดของคนมันส่งผลถึงการกระทำได้มากขนาดไหน จนผมได้รู้ว่าพ่อจนไม่ได้จนเพราะรายได้แต่จนจากความคิดและการกระทำของเขาเอง เพราะจริงๆแล้วพ่อคนนี้ก็มีรายได้ดีพอสมควร ความคิดที่แตกต่างกันสิ้นเชิงของพ่อทั้งสองทำให้ผมต้องตัดสินใจให้แน่ชัดว่าจะเลือกความคิดของใครสักคน หนักใจจังผมจะเชื่อพ่อคนไหนดีเชื่อพ่อที่รวยหรือเชื่อพ่อที่จนดี

แต่ทั้งคู่ก็พูดเหมือนกันเลยว่าการเรียนและการเทรนนิ่งเป็นสิ่งสำคัญ แต่จะเรียนอะไรล่ะความคิดทั้งคู่ต่างกันสิ้นเชิงเลยพ่อก็นึงพูดว่าเรียนเยอะๆนะลูกให้ได้ปริญญาสูงๆ แล้วจะได้เข้าบริษัทดีๆที่มั่นคง ส่วนพ่ออีกคนพูดว่าจงเรียนรู้วิธีการทำงานของเงินและเรียนวิธีการให้เงินทำงานแทนเราก็บอกว่าเราไม่ได้ทำงานเพื่อเงินแต่ให้เงินทำงานด้วยตัวมันเอง

ตอนผมอายุ 9 ขวบผมตัดสินใจที่จะเชื่อคำแนะนำของพ่อที่รวย หมายถึงว่าผมจะไม่เงี่ยหูฟังคำแนะนำของพ่อจนอีกแล้ว จริงๆแล้วเขาก็คือพ่อตัวจริงของผมนั่นแหละครับ

เมื่อหลายปีก่อนในป่ามีทางแยกสองทาง ผมได้เลือกทางเดินที่มีรอยเท้าน้อยกว่า การตัดสินใจในครั้งนั้นได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตผมหลังจากที่ผมตัดสินใจเลือกคำแนะนำของพ่อคนหนึ่งผมก็ได้รับการเรียนรู้เรื่องการเงินอย่างเต็มที่ พ่อรวยของผมได้สอนผมตั้งแต่ 9 ขวบจนถึงอายุ 39 เป็นเวลา 30 ปี ทั้งทั้งที่ผมหัวไม่ดีแต่ท่านก็สอนซ้ำแล้วซ้ำอีกให้ผมอย่างใจเย็นจนผมเข้าใจหมดทุกอย่างและไม่มีอะไรจะสอนอีกแล้ว วันที่พ่อสิ้นชีวิตนั่นคือการจบการศึกษาของผมครับ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ นี่คือเนื้อเรื่องย่อๆ ของหนังสือเล่มนี้ครับ ซึ่งเนื้อหาในหนังสือ มีมากมายกว่านี้มากครับ ลองหาอ่านดูได้ครับ แล้วท่านจะได้ข้อคิดดีๆ จากหนังสือเล่มนี้อีกมากครับ

 

ตอนนี้ เราสามารถสั่งหนังสือ ออนไลน์ได้แล้วนะครับ ส่งถึงบ้านกันเลยทีเดียว มีทั้งแบบ E-BOOK และ หนังสือเป็นเล่ม  ลองดูครับ คลิกที่รูปเล่มหนังสือด้านล่างได้เลยครับ

สรุป หนังสือ พ่อรวยสอนลูก


แชร์บทความนี้

Leave a Reply